การปลูกผมจัดเป็นเทคนิคการย้ายรากผมชนิดหนึ่งและใช้เพียงยาชาเฉพาะที่เท่านั้น จึงถือว่าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เส้นผมสามารถขึ้นได้จริงและยาวได้ปกติอยู่กับเจ้าของไปตลอดเป็นการปลูกผมถาวรจริงๆ และคนที่มีผมร่วงบางจากกรรมพันธุ์ รากผมบริเวณท้ายทอยและเหนือกกหูจะไม่ถูกทำลายด้วยอิทธิพลของฮอร์โมน DHT เพราะฉะนั้นเวลาย้ายรากผมมาปลูกตำแหน่งที่ผมบางแล้วเส้นผมที่ขึ้นใหม่จะไม่กลับมาร่วงหรือมีเส้นเล็กลงอีก
สารบัญ ปลูกผม
- ศัลยกรรมปลูกผม คือ
- ศัลยกรรมปลูกผม ราคาเท่าไหร่
- เทคนิคการปลูกผม FUE
- เทคนิคปลูกผม (Partial-Shaven FUE)
- ปลูกผม ด้วยเทคนิค FUE ราคาเท่าไหร่
- ความแตกต่างในการปลูกผมระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย
- เทคนิคการปลูกผม-DHI
- ปลูกผม ด้วยเทคนิค DHI
- การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดปลูกผม
- การดูแลตัวเองหลังปลูก
- การปลูกผมถาวร vs การปลูกผมปกติ
- ศัลยกรรมปลูกผม ผู้หญิงสามารถทำได้ไหม
- Q&A คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการปลูกผม
- ปลูกผม ที่ไหนดี ควรเลือกจากอะไรบ้าง
- ปลูกผมที่ The Art Hair Center ดีอย่างไร
- แพทย์ผู้ชำนาญการปลูกผม The Art Hair Center
- การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction): เป็นวิธีที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง โดยจะใช้เครื่องมือพิเศษในการเอาเซลล์รากผมจากบริเวณที่ยังมีผมหนาแน่นมาปลูกในบริเวณที่หัวล้านหรือผมบาง
- การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation): เป็นวิธีที่ต้องตัดแถบผิวหนังที่มีผมออกจากบริเวณหลังศีรษะแล้วนำมาแบ่งเป็นหน่วยๆ ก่อนจะปลูกลงในบริเวณที่ต้องการ
- การปลูกผมด้วยเทคนิคอื่นๆ: เช่น การใช้เลเซอร์ หรือการใช้ยากระตุ้นการเติบโตของผม
- FUE (Follicular Unit Extraction):
- ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป: ราคาอาจอยู่ระหว่าง $4,000 ถึง $15,000 หรือมากกว่า
- ในเอเชีย (เช่น ประเทศไทย, อินเดีย): ราคาอาจเริ่มต้นที่ประมาณ $1,500 ไปจนถึง $5,000 หรือมากกว่า
- FUT (Follicular Unit Transplantation):
- ราคาอาจคล้ายกับ FUE แต่บางครั้งอาจถูกกว่าเล็กน้อย เนื่องจากเป็นเทคนิคที่เก่ากว่า
- DHI (Direct Hair Implantation):
- ราคาสำหรับ DHI อาจสูงกว่า FUE และ FUT เล็กน้อย เนื่องจากต้องการเครื่องมือพิเศษและความชำนาญสูง ราคาอาจอยู่ในช่วง $2,000 ถึง $20,000 ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น
- การเตรียมผู้ป่วย: บริเวณที่จะเอาเซลล์รากผมออก (บริเวณผู้บริจาค) และบริเวณที่จะทำการปลูก (บริเวณรับ) จะถูกตัดผมให้สั้นเพื่อความสะดวกในการทำงาน
- การให้ยาชาท้องถิ่น: จะให้ยาชาที่บริเวณผู้บริจาคและบริเวณรับเพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการทำศัลยกรรม
- การเก็บเซลล์รากผม: ใช้เครื่องมือพิเศษมีขนาดเล็กมากเพื่อเอาเซลล์รากผม (follicular units) ออกจากบริเวณผู้บริจาค โดยทำการเก็บแต่ละหน่วยอย่างแยกส่วนโดยไม่ต้องตัดแถบผิวหนังออกมา
- การเตรียมหน่วยรากผม: หลังจากที่เก็บหน่วยรากผมได้แล้ว จะทำการเตรียมและแยกเซลล์รากผมเหล่านั้นให้พร้อมสำหรับการปลูก
- การทำรูรับ: แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษทำรูเล็กๆ บนบริเวณที่จะทำการปลูกผมบนหนังศีรษะ
- การปลูกหน่วยรากผม: นำหน่วยรากผมที่เตรียมไว้ปลูกลงในรูที่ทำไว้บนหนังศีรษะ โดยจะจัดเรียงตามแผนที่วางไว้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติที่สุด
- ในสหรัฐอเมริกา ราคาสามารถอยู่ระหว่าง $4,000 ถึง $15,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยรากผมที่ปลูก
- ในยุโรป ราคามักจะอยู่ในช่วงที่คล้ายกับสหรัฐอเมริกา แต่อาจพบราคาที่ต่ำกว่าในบางประเทศ
- ในเอเชีย, เช่น ประเทศไทย หรือ อินเดีย, ราคาอาจต่ำกว่ามาก เริ่มต้นจากประมาณ $1,500 ไปจนถึง $5,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการรักษา
- การเตรียมผู้ป่วย: เช่นเดียวกับ FUE, บริเวณที่จะเก็บรากผมและบริเวณที่จะปลูกถ่ายจะถูกเตรียมพร้อม ผมในบริเวณที่จะเก็บรากผมอาจถูกตัดให้สั้นเพื่อความง่ายในการเก็บรากผม
- การเก็บรากผม: ใช้เทคนิค FUE ในการเก็บรากผมจากบริเวณผู้บริจาคโดยใช้เครื่องมือพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อลดการทำลายรากผมในระหว่างการเก็บ
- การใช้ Choi Pen: รากผมที่เก็บได้จะถูกโหลดเข้าไปใน Choi Pen และแพทย์จะใช้ปากกานี้ในการปลูกถ่ายรากผมโดยตรงลงบนบริเวณที่ต้องการ โดยไม่ต้องสร้างรูรับก่อน
- การควบคุมความลึกและทิศทาง: เทคนิคนี้ช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมความลึกและทิศทางของการปลูกถ่ายรากผมได้ดีกว่าเทคนิคอื่นๆ ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- การฟื้นตัว: ระยะเวลาการฟื้นตัวหลังการทำ DHI อาจสั้นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคอื่นๆ เนื่องจากมีการรบกวนหนังศีรษะน้อยกว่า
- ในสหรัฐอเมริกา ราคาสำหรับการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI อาจอยู่ระหว่าง $5,000 ถึง $20,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยรากผมและความซับซ้อนของการรักษา
- ในยุโรป ราคาอาจคล้ายคลึงกับสหรัฐอเมริกา แต่ในบางประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการรักษาที่ต่ำกว่า ราคาอาจเริ่มต้นที่ประมาณ $3,000 ไปจนถึง $15,000
- ในเอเชีย, เช่น ประเทศไทย, อินเดีย, หรือตุรกี, ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการท่องเที่ยวทางการแพทย์ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำ ราคาอาจอยู่ระหว่าง $2,000 ถึง $7,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการรักษา
- แจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้งในกรณีที่เป็นโรคประจำตัว หรือจำเป็นต้องทานยาเป็นประจำ
- งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น พลาวิกซ์ , แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), โสม หรือสมุนไพรอื่นๆ อย่างน้อย 7 วัน
- งดการใช้ Rogaine หรือ Minoxidil ที่เป็นสารช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมอย่างน้อย 7 วัน
- ในกรณีของผู้ป่วยโรคความดันสูงที่ใช้ยา Beta Blocker จำเป็นต้องแจ้งแพทย์เพื่อขอเปลี่ยนยาก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน เนื่องจากอาจมีผลกับยาชาที่ใช้ในการผ่าตัด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ก่อนและหลังการผ่าตัด 48 ชั่วโมง
- พักผ่อนให้เพียงพอเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- ในวันผ่าตัดให้สวมเสื้อผ่าหน้ามาเข้ารับบริการ เนื่องจากหลังผ่าตัดไม่ควรสวมเสื้อที่ต้องกระทบศีรษะบริเวณที่ผ่าตัดเมื่อต้องสวมเข้าหรือถอดออก
- งดดื่มชาและกาแฟก่อนการผ่าตัด
- ควรมีผู้ดูแลมาด้วยในวันผ่าตัด และไม่ควรขับรถมาเอง เนื่องจากบางเคสจำเป็นต้องใช้ยานอนหลับในระหว่างผ่าตัด ทำให้มีอาการสะลึมสะลือได้เมื่อผ่าตัดเสร็จ
- การประเมินสุขภาพ: อาจต้องมีการตรวจสุขภาพทั่วไปและการประเมินบริเวณที่จะทำการปลูกผม เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
- ประวัติการรักษา: แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการรักษาและยาที่กำลังใช้งานอยู่
- หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมบางชนิด: หยุดใช้ยาเจือจางเลือด เช่น แอสไพริน และอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามิน E, โอเมก้า 3 อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของการเลือดออก
- เลิกสูบบุหรี่: ควรเลิกสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด เนื่องจากสารในบุหรี่สามารถทำให้การฟื้นตัวช้าลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์: หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ: ดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ แต่หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหนักๆ ก่อนการรักษา
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: มีการรับประทานอาหารที่สมดุลและดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่ดีสำหรับการฟื้นตัว
- การจัดการเวลา: ต้องวางแผนเวลาสำหรับการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด ซึ่งอาจรวมถึงการหยุดพักจากงานและการจำกัดกิจกรรมทางกายภาพ
- การเตรียมพื้นที่พักฟื้น: มีการเตรียมสถานที่สำหรับพักฟื้นที่สะดวกสบายและสามารถเข้าถึงของใช้จำเป็นได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้: หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้บริเวณที่ได้รับการปลูกผมและบริเวณผู้บริจาคในช่วงไม่กี่วันแรกหลังการผ่าตัด
- การทำความสะอาด: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการทำความสะอาดบริเวณที่ได้รับการปลูกผม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้สเปรย์หรือการล้างด้วยน้ำเกลือ
- ยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ: ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดและป้องกันการติดเชื้อ
- รักษาท่านอน: พยายามนอนหลับด้วยการยกศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดการบวมและช่วยให้บริเวณที่ได้รับการปลูกผมได้รับการหมุนเวียนของเลือดที่ดี
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดเหงื่อมากในช่วงสองสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง: หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงบนบริเวณที่ได้รับการปลูกผมในช่วงไม่กี่เดือนแรก
- การล้างผม: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการล้างผม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้แชมพูอ่อนโยนและวิธีการล้างที่เฉพาะเจาะจง
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม: หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมจนกว่าบริเวณที่ผ่าตัดจะหายดี
- ติดตามผล: ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจติดตามผลการรักษาและประเมินผลลัพธ์ของการปลูกผม
- การปลูกผมถาวร:
- ใช้เซลล์รากผมจากบริเวณที่มีการเจริญเติบโตของผมอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วง (เช่น บริเวณหลังศีรษะ) ซึ่งหมายความว่าผมที่ปลูกถ่ายจะยังคงเติบโตอย่างถาวรในบริเวณใหม่
- เน้นการให้ผลลัพธ์ที่คงทนและไม่ต้องการการทำซ้ำหลายครั้ง เว้นแต่ความต้องการของผู้ป่วยจะเปลี่ยนแปลงไป
- การปลูกผมปกติ:
- อาจหมายถึงการใช้เทคนิคการปลูกผมทั่วไปที่ไม่ระบุเฉพาะถึงการใช้เทคโนโลยีหรือเทคนิคที่ทันสมัย
- ในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้วิธีการชั่วคราวหรือการรักษาที่ไม่ใช่การผ่าตัด เช่น การใช้วิกผมหรือผลิตภัณฑ์เพิ่มความหนาแน่นของผม ซึ่งไม่ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
- รูปแบบการสูญเสียผม: ผู้หญิงมักมีรูปแบบการสูญเสียผมที่แตกต่างจากผู้ชาย โดยทั่วไปผู้หญิงจะมีผมบางทั่วทั้งศีรษะ ไม่ใช่เฉพาะที่หน้าผากหรือบนยอดศีรษะ เช่นเดียวกับผู้ชาย
- การประเมินและการวางแผน: ก่อนทำศัลยกรรมปลูกผม แพทย์จะทำการประเมินอย่างละเอียดเพื่อตัดสินใจว่าผู้ป่วยเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมหรือไม่ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
- เทคนิคการปลูกผม: เทคนิคการปลูกผมที่ใช้กับผู้หญิงไม่แตกต่างจากเทคนิคที่ใช้กับผู้ชาย ทั้ง FUE และ FUT สามารถใช้ได้กับผู้หญิง แต่การเลือกเทคนิคอาจขึ้นอยู่กับปริมาณผมบริเวณผู้บริจาคและเป้าหมายของการรักษา
- ความคาดหวัง: สำคัญที่ผู้หญิงควรมีความคาดหวังที่เป็นจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการรักษา แพทย์จะช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถบรรลุได้จากการปลูกผม
- การรักษาเพิ่มเติม: ในบางกรณี อาจแนะนำให้มีการรักษาเพิ่มเติม เช่น การใช้ยาที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของผมหรือการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการปลูกผม
- เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการปลูกผม เพราะการปลูกผมไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการย้ายเซลล์รากผม แต่ยังรวมถึงการออกแบบเส้นผมที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล
- ตรวจสอบว่าคลินิกและแพทย์มีการรับรองและใบอนุญาตที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการศัลยกรรมปลูกผมหรือไม่
- ค้นหารีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการและขอดูผลงานก่อนหน้านี้ เพื่อประเมินความพึงพอใจและคุณภาพของการรักษา
- สอบถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีและเทคนิคการปลูกผมที่คลินิกใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาใช้เทคนิคที่ทันสมัยและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
- คลินิกควรมีการติดตามผลหลังการรักษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการปลูกผม
- ควรเลือกคลินิกที่ให้ข้อมูลราคาและค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน รวมถึงอธิบายรายละเอียดของการรักษาและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม
- ควรรู้สึกสบายใจเมื่อสื่อสารกับทีมแพทย์และพนักงาน พวกเขาควรให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและตอบทุกคำถามของคุณอย่างเต็มใจ
ศัลยกรรมปลูกผม คือ
ศัลยกรรมปลูกผมคือ การย้ายรากผมจากบริเวณที่มีเส้นผมหนาแน่น (บริเวณท้ายทอย) ไปยังบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน โดยแพทย์จะใช้เทคนิคเฉพาะทางในการแยกเอารากผมทีละกราฟต์ (Follicular Unit) ออกมา ปลูกถ่ายลงในบริเวณที่ต้องการ
ศัลยกรรมปลูกผมเป็นขั้นตอนการรักษาที่ใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการสูญเสียผมหรือหัวล้าน มีหลายวิธีในการปลูกผม อาทิเช่น
การตัดสินใจเลือกวิธีการปลูกผมควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น สภาพของผมและหนังศีรษะ ความต้องการของผู้ป่วย และคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน รวมถึงค่าใช้จ่ายและเวลาในการฟื้นตัวที่ต้องใช้
การปลูกผมสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจและปรับปรุงภาพลักษณ์ภายนอกของบุคคลได้ แต่ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนการรักษาและมีความเข้าใจเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่คาดหวังได้อย่างเหมาะสม
ศัลยกรรมปลูกผม ราคาเท่าไหร่
ราคาศัลยกรรมปลูกผมสามารถแตกต่างกันไปอย่างมากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคการปลูกผมที่ใช้ (เช่น FUE, FUT, DHI), ประเทศและที่ตั้งของคลินิกหรือโรงพยาบาล, ชื่อเสียงและความชำนาญของแพทย์, และจำนวนหน่วยรากผมที่ต้องการปลูก. นี่คือภาพรวมของช่วงราคาที่คุณอาจคาดหวัง
ราคาเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณค่า และสำหรับการปลูกผมจำนวนมากหรือการรักษาที่มีความซับซ้อนอาจมีราคาสูงกว่านี้ คุณควรติดต่อคลินิกหรือโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อขอรายละเอียดและราคาที่แน่นอนสำหรับกรณีของคุณ อย่าลืมขอใบเสนอราคาจากหลายที่เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพและราคาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ.
เทคนิคการปลูกผม FUE (Follicular Unit Extractio) คืออะไร
ปลูกผมเทคนิค FUE หรือ Follicular Unit Extraction เป็นการปลูกผมถาวรแบบย้ายผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว ไม่มีแผลเย็บเหมือนวิธีทั่วไป (Strip FUT) โดยวิธีนี้จะใช้หัวเจาะขนาดเล็กมากๆ เจาะลงไปรอบๆ กอผมลึกลงไปถึงรากผมด้านล่าง จากนั้นแต่ละกอผมจะถูกดึงออกมาจากหนังศีรษะ ซึ่งเป็นการปลูกผมเทคนิคมาตรฐานสากลที่ใช้ทั่วโลก ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่ให้ผลเรื่องความสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่มีแผลเป็นและฟื้นตัวไวมาก ศัลยกรรมปลูกผมถาวรจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาผมบางที่ได้ผลมากที่สุดในเวลานี้ และยังเป็นหนึ่งในวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมสูงสุดเนื่องจากมีการรบกวนน้อยและไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่ชัดเจนบนหนังศีรษะ ขั้นตอนการทำ FUE ประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:
ขั้นตอนนี้ต้องการความชำนาญและประสบการณ์สูงจากศัลยแพทย์ และมีข้อดีคือลดการเกิดแผลเป็นที่หนังศีรษะ ให้ระยะเวลาการฟื้นตัวสั้น และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายอาจสูงและอาจต้องการหลายเซสชั่นในบางกรณีเพื่อให้ได้ความหนาแน่นของผมตามที่ต้องการ
เทคนิคปลูกผม (Partial-Shaven FUE) Partial-Shaven Follicular Unit Extraction
ปลูกผมเทคนิค Partial-Shaven FUE จะคล้ายกับเทคนิค FUE แต่แตกต่างกันที่เทคนิคนี้ผมบริเวณด้านหลังจะไม่ถูกโกนออกทั้งหมด แต่กอผมที่หมอเลือกเจาะออกมาจะถูกตัดให้สั้นก่อน แล้วค่อยทำการเจาะกอรากผออกมออกมา ข้อดีของการปลูกผมวิธีนี้คือ ผมด้านหลังจะยาวเหมือนเดิม ดังนั้นแผลเป็นจะโดนผมบังตั้งแต่วันแรกที่ปลูกเลย วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากโกนผมด้านหลังโดยเฉพาะการปลูกผมผู้หญิง ทั้งนี้ทั้งนั้นผมที่ถูกปลูกจะเป็นผมที่สั้นจึงทำให้ดูแลง่าย และราคาไม่แพงเท่ากับการปลูกผมเทคนิค Long Hair FUE ด้วย แต่ด้วยความที่คุณหมอยังต้องทำงานกับผมที่ยาว การปลูกผมเทคนิคนี้จะใช้เวลามากกว่าและราคาสูงกว่าการปลูกผมแบบ FUE ปกติ
เทคนิคการปลูกผม (Partial-Shaven FUE) Partial-Shaven Follicular Unit Extraction
การปลูกผมด้วยเทคนิคนี้จะเหมาะมากสำหรับผู้หญิง หรือผู้ที่ไม่ต้องการอยากตัดผมสั้นหรือโกนผมเลย เพราะจะไม่ต้องโกนผม หรือตัดผมสั้นด้านหลังเลย กราฟผมที่เจาะออกมา จะได้เป็นกราฟผมทั้งเส้นแล้วนำไปปลูกบริเวณที่ต้องการ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังปลูกผมเสร็จทันที เพราะแผลหลังปลูกจะโดนผมบังไว้ตั้งแต่วันแรกที่ปลูก ผมเรียงเส้นสวยเป็นธรรมชาติ แต่เทคนิคจะใช้เทคนิคขั้นสูงของแพทย์ผู้ชำนาญการ รวมทั้งเวลามากกว่าเทคนิคชนิดอื่น
ปลูกผม ด้วยเทคนิค FUE ราคาเท่าไหร่
ราคาการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) สามารถแตกต่างกันไปอย่างมากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเทศที่ทำการรักษา, ความชำนาญและชื่อเสียงของแพทย์ผู้ทำการรักษา, จำนวนหน่วยรากผมที่ต้องการปลูก, และคุณภาพของคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ให้บริการ ดังนั้นราคาที่แน่นอนอาจแตกต่างไปในแต่ละกรณี แต่สามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับช่วงราคาได้ดังนี้:
ราคาเหล่านี้มักจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรักษา รวมถึงการตรวจสุขภาพก่อนการรักษา, ค่าใช้จ่ายของการผ่าตัด, การดูแลหลังการรักษา, และการติดตามผล อย่างไรก็ตาม ควรติดต่อคลินิกหรือโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อขอรายละเอียดและราคาที่แน่นอน และควรพิจารณาขอใบเสนอราคาจากหลายๆ ที่เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพและราคาที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง.
เทคนิคการปลูกผม (FMCT) Follicular Micro Cloning Technique
เทคนิคพิเศษสำหรับการปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยการปลูกถ่ายรากผมในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ซึ่งเทคนิคนี้สามารถเพิ่มจำนวนรากผมใหม่พร้อมกระตุ้นการเจริญเติบโตพร้อมกับความแข็งแรงให้กับรากผมที่มีอยู่เดิม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นในการแก้ไขภาวะผมร่วงผมบาง และศีรษะล้าน
เทคนิคการปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation)คืออะไร
เทคนิคการปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation) เป็นหนึ่งในเทคนิคการปลูกผมที่ทันสมัยซึ่งมีจุดเด่นในการให้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติและมีการรบกวนน้อยต่อบริเวณที่ทำการรักษา เทคนิคนี้ใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า “DHI Implanter” หรือ “Choi Pen” ในการปลูกถ่ายรากผมโดยตรงลงบนหนังศีรษะโดยไม่ต้องสร้างรูรับก่อน ขั้นตอนหลักๆ ของการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ได้แก่:
เทคนิค DHI มีข้อดีหลายประการ เช่น ความเจ็บปวดน้อยลงหลังการรักษา, ระยะเวลาการฟื้นตัวที่สั้นลง, และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่าเทคนิคอื่นๆ และต้องการความชำนาญสูงจากผู้ทำการรักษา เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ปลูกผม ด้วยเทคนิค DHI ราคาเท่าไหร่
ราคาการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI (Direct Hair Implantation) อาจแตกต่างกันอย่างมากตามหลายปัจจัย เช่น ประเทศที่ทำการรักษา, ความชำนาญและชื่อเสียงของแพทย์, จำนวนหน่วยรากผมที่ต้องการปลูก, และคุณภาพของคลินิกหรือโรงพยาบาล ดังนั้นราคาที่แน่นอนอาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี แต่สามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับช่วงราคาได้ดังนี้:
โดยจะเห็นได้ว่าราคาของการปลูกด้วยเทคนิคนี้จะมีราคาสูงกว่าแบบ FUE โดนราคาเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณค่า และควรติดต่อคลินิกหรือโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อขอรายละเอียดและราคาที่แน่นอน สิ่งสำคัญคือต้องขอใบเสนอราคาจากหลายแห่งเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพและราคาที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง นอกจากนี้ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นนอกเหนือจากการผ่าตัด เช่น ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การพักฟื้น และการติดตามผลหลังการรักษา
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดปลูกผม
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนปลูกผม มีอะไรบ้าง
การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมปลูกผมเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงหรือความไม่สะดวกหลังการรักษา นี่คือคำแนะนำทั่วไปสำหรับการเตรียมตัวก่อนปลูกผม:
1. การปรึกษาแพทย์
2. การหลีกเลี่ยงบางสิ่ง
3. การดูแลสุขภาพ
4. การวางแผนการเดินทางและการฟื้นตัว
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน สำคัญที่สุดคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลคุณอย่างละเอียดและถามถึงข้อสงสัยหรือความกังวลที่คุณอาจมีก่อนการผ่าตัด.
การดูแลตัวเองหลังปลูก
การดูแลตัวเองหลังการปลูกผมเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือปัญหาอื่นๆ นี่คือคำแนะนำพื้นฐานสำหรับการดูแลตัวเองหลังการปลูกผม:
1. การดูแลบริเวณที่ผ่าตัด
2. การใช้ยา
3. การนอนหลับ
4. การหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง
5. การดูแลเส้นผม
6. การตรวจติดตาม
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและมีผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการปลูกผม สำคัญที่สุดคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลคุณอย่างละเอียดและถามถึงข้อสงสัยหรือความกังวลที่คุณอาจมี.
ปลูกผมถาวร ต่างจากการปลูกผมปกติไหม
การปลูกผมถาวรหมายถึงการปลูกผมที่ใช้เทคนิคที่ทำให้ผลลัพธ์มีความคงทนและไม่ต้องทำซ้ำในอนาคต ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการศัลยกรรมปลูกผมในปัจจุบัน การปลูกผมด้วยเทคนิคที่ทันสมัย เช่น FUE (Follicular Unit Extraction) หรือ FUT (Follicular Unit Transplantation) ถือเป็นการปลูกผมที่มีผลถาวร เนื่องจากเซลล์รากผมที่ถูกย้ายมาจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในบริเวณที่ได้รับการปลูกถ่าย ซึ่งไม่ได้ต่างกับการปลูกผมปกติเลยนั่นเอง
การปลูกผมถาวร vs การปลูกผมปกติ
การเลือกวิธีการปลูกผมควรพิจารณาจากความต้องการของผู้ป่วย สภาพของผมและหนังศีรษะ และคำแนะนำของแพทย์ การปลูกผมด้วยเทคนิคทันสมัยนั้นมีเป้าหมายเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ดังนั้นผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่คงทนควรพิจารณาเทคนิคเหล่านี้เป็นหลัก.
ศัลยกรรมปลูกผม ผู้หญิงสามารถทำได้ไหม
ผู้หญิงสามารถทำศัลยกรรมปลูกผมได้เช่นกัน แม้ว่าการสูญเสียผมจะพบบ่อยมากในผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็สามารถประสบปัญหาเรื่องผมบางหรือหัวล้านได้เช่นกัน เหตุผลหลักที่ทำให้ผู้หญิงอาจต้องการทำศัลยกรรมปลูกผม ได้แก่ การสูญเสียผมจากสาเหตุทางพันธุกรรม (ศีรษะล้านแบบหญิง), การบาดเจ็บจากการดึงผมหรือการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่รุนแรง, หรือสภาพทางการแพทย์ที่มีผลต่อการสูญเสียผม เช่น โรคไทรอยด์ที่ผิดปกติ
ความแตกต่างในการปลูกผมระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย
การพิจารณาพิเศษ
การปลูกผมสามารถเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงที่ประสบปัญหาผมบางหรือสูญเสียผม แต่การปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการตัดสินใจว่าการรักษานี้เหมาะสมกับคุณหรือไม่ และเพื่อวางแผนการรักษาที่ดีที่สุด.
Q&A คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการปลูกผม
เมื่อปลูกผมไปแล้ว ผมที่ปลูกจะอยู่นานแค่ไหน ?
ผมที่ปลูกไปแล้วจะอยู่ถาวร เพราะเป็นการย้ายรากผมมาปลูก จึงมีการเติบโตเหมือนผมปกติ ถ้ามีการหลุดร่วง ก็จะหลุดร่วงตามปกติ ตามวงจรชีวิตของผมทั่วไป
หลังการปลูกผมนานเท่าไหร่จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ?
ในช่วง 1-3 เดือนแรก ผมที่นำมาปลูกจะหลุดร่วงออกไปก่อน ซึ่งจำนวนการหลุดร่วงจะไม่เท่ากันในแต่ละคน ผมจะเริ่มขึ้นใหม่ประมาณเดือนที่ 4 เป็นต้นไป และจะเห็นผลชัดเจนในช่วงเดือนที่ 8-9
ปลูกผมเทคนิค FUE ดีกว่าเทคนิคอื่นอย่างไร ?
เทคนิคการปลูกผมถาวรที่ The Art Clinic คือใช้เทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการถอนรากผมออกมาทีละรากทีละกอ แล้วนำมาปลูกบริเวณที่ต้องการ แผลจากการเจาะรากผมด้วยเทคนิคนี้จะมีขนาดเล็กมากเพียง 1 มิลลิเมตร ทำให้ดูแลง่ายและแผลหายเร็วกว่าเทคนิคที่ใช้การผ่าตัดแบบแแผลยาว
ศัลยกรรมปลูกผมเจ็บไหม
การปลูกผมถาวรใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ ฉีดลงไปในบริเวณที่ต้องการ เนื่องจากไม่ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงไม่มีการวางยาสลบ อาจจะรู้สึกเจ็บบ้างในบริเวณที่ฉีดยาชา แต่จะมีการลดความเจ็บปวดด้วยขนาดของเข็มฉีดยาที่เล็กเป็นพิเศษ อาจะมีการให้ยาชาที่ทำให้ง่วงซึมบ้างหากผู้เข้ารับบริการมีความวิตกกังวลมาก
ปลูกผมไป สามารถทำงานได้ตามปกติไหม ?
สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติในวันถัดไป แต่ต้องระมัดระวังบริเวณปลกผมที่แพทย์แนะนำและมาพบแแพทย์ตามนัดในช่วง 1 ถึง 3 วันแรกเพื่อเช็คบริเวณที่ปลูกผมและสระผมเพื่อทำความสะอาดแผล
การปลูกผมที่ The Art Clinic มีความปลอดภัยหรือไม่ ?
การปลูกผมที่ The Art Clinic ทำในห้องผ่าตัดพร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน บุคลากร แพทย์ผู้ทำการปลูกผมที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีเป็นผู้ทำการปลูกผมให้ในทุกขั้นตอนตั้งแต่ให้คำปรึกษา ประเมินกราฟ ออกแบบแนวเส้นผม จนถึงขั้นตอนการปลูกผม จึงมั่นใจได้ในเรื่องความสะอาด และการปลูกผมที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย
ผมบริเวณที่ย้ายมาปลูกจะบางลงหรือไม่?
ผมบริเวณด้านหลังที่ย้ายมาปลูกจะมีความหนาแน่นมากกว่าบริเวณด้านหน้าหลายเท่า ซึ่งแพทย์จะทำการคำนวณแล้วว่าย้ายมาได้เท่าไหร่ จึงไม่ต้องกังวลว่าการย้ายรากผมบริเวณนี้จะทำให้ผมด้านหลังดูบางลงมากเกินไป
ผลข้างเคียงที่ได้จากการปลูกผมมีอะไรบ้าง?
หลังจากการปลูกผมจะมีอาการบวมที่หน้าผากจากการใช้ยาชาเฉพาะที่บ้างประมาณ 3-4 วัน ซึ่งจะไม่มีอันตรายใดๆและหายไปเองได้ อาจจะมีจุดแดงๆหรือผิวบริเวณหนังศีรษะดูเป็นสีแดง ซึ่งเกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังบริเวณนั้นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล สามารถหายไปเองโดยใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือน
ปลูกผม ที่ไหนดี ควรเลือกจากอะไรบ้าง
การเลือกสถานที่ปลูกผมที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะมีผลต่อคุณภาพและความสำเร็จของการรักษา นี่คือปัจจัยหลักๆ ที่คุณควรพิจารณา:
1. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์
2. การรับรองและใบอนุญาต
3. รีวิวและผลลัพธ์ก่อนหน้า
4. เทคโนโลยีและเทคนิคการรักษา
5. การดูแลหลังการรักษา
6. ความโปร่งใสของราคาและค่าใช้จ่าย
7. การสื่อสารและการให้ข้อมูล
การเลือกสถานที่ปลูกผมที่ดีที่สุดสำหรับคุณควรพิจารณาจากข้อมูลและการวิจัยเหล่านี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณพอใจและมีความเสี่ยงต่ำที่สุด.
ปลูกผมที่ The Art Hair Center ดีอย่างไร ?
เทคนิคพิเศษกว่าที่อื่น
ความคงเดิมให้ดูเป็นธรรมชาติ และความต้องการของคนไข้ทุกท่านเป็นสิ่งสำคัญ การปลูกผมโดยการดีไซน์ไรผมให้รับกับใบหน้ามากที่สุดด้วยเทคนิค Cuztomized Hair Design เพื่อป้องกันการเกิดใหม่ของแนวไรผมขึ้นคนละทิศคนละทาง ไม่เป็นไปในแนวไรผมเดิม และทำให้ได้เส้นผมที่มีอัตราติดสูงที่สุด
ไร้รอยแผลเป็น
ไม่มีการผ่าตัด แผลหายไว ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูงมาก ไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนภายหลัง
มีความปราณีต
ใส่ใจทุกรายละเอียด สามารถดีไซน์แนวผมให้เข้ากับแต่ละบุคคล
เห็นผลทันทีหลังทำ
การปลูกผมด้วยเทคนิคเฉพาะที่ The Art Hair Center ทำให้คุณเห็นแนวไรผมใหม่ขึ้นมาทันทีหลังการปลูกผมเสร็จ และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลย
ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี
ทีมแพทย์เฉพาะทางและทีมปลูกผมมากประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับในฝีมือและผลลัพธ์อย่างดีมามากกว่า 10 ปี
แพทย์ผู้ชำนาญการปลูกผม The Art Hair Center
หมอเมย์
พญ.เมธาวดี หนุนภักดี