The Art Clinic

IV DRIP โปรแกรมเติมออร่า ผิวขาวกระจ่างใส

การฉีดผิว คือการฉีดสารสำคัญต่างๆที่มากกว่าการฉีดวิตามินซีอย่างเดียว จึงช่วยฟื้นฟูสภาพผิวค่อยๆขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการใช้วิตามินบำรุงผิวหลากหลายชนิด สารต้านอนุมูลอิสระ และสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว เข้าทางหลอดเลือดดำในขนาดที่เหมาะสม ประโยชน์ท่จะได้รับจากการฉีดคือมีผลช่วยในเรื่องเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ผิวจะค่อยๆดูขาวกระจ่างใสขึ้น

เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มสารต่อต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างการ ผู้ที่ต้องการการเสริมสร้างคอลลาเจน และเน้นให้ผิวดูขาวกระจ่างใส

  • ระยะเวลาในการทำนานประมาณ 15-20 นาทีต่อครั้ง ควรทำบ่อยประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง (หรือตามคำแนะนำของแพทย์)
  • เข็มที่ฉีดเข้าเส้นเลือดมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับเข็มเจาะเลือดทั่วไป จึงรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยขณะฉีดยาเข้าเส้นเลือด
ivdrip-03

Diamond White วิตามินผิวขาวนีออน ปรับผิวให้กระจ่างใส

ivdrip2-02

Signature 7D ปรับสีผิวให้กระจ่างใส บำรุงสมอง ดีท็อกซ์ตับ

ivdrip-01
ivdrip-02-2

Aura White วิตามิน ผิวขาวนีออน ปรับผิวให้ กระจ่างใส

ivdrip-06
ivdrip-04

Gold White สร้างคอลลาเจนผิวเติมความอ่อนเยาว์ ช่วยให้ผิวเด็ก

IV Drip คืออะไร ? ประโยชน์และข้อควรระวังก่อนทำ

IV Drip หรือ Vitamin Drip คือ การฉีดวิตามินหรือสารอาหารต่างๆ ผ่านทางสายน้ำเกลือเข้าทางหลอดเลือดดำ ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินได้ทั้งหมดเกือบ 100% อีกทั้งยังเห็นผลได้ทันทีทันใจ 

โดยปกติแล้ว ร่างกายจะดูดซึมวิตามินหรือสารอาหารต่างๆ ผ่านทางระบบทางเดินอาหาร ซึ่งต้องใช้เวลาและอาจสูญเสียวิตามินบางส่วนไประหว่างการย่อยและการดูดซึม

แต่การฉีดวิตามินหรือสารอาหารต่างๆ ผ่านทางหลอดเลือดดำนั้น ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินได้ทั้งหมดเกือบ 100% เนื่องจากวิตามินจะถูกส่งตรงไปยังกระแสเลือดและเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายได้ทันที

IV Drip มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น

  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ วิตามินบางชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย
  • ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิตามินและสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี มีส่วนช่วยในการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน วิตามินบางชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินดี มีส่วนช่วยในการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ดีขึ้น
  • ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย วิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี วิตามินซี มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพลังงานให้ร่างกาย ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า
  • ช่วยลดน้ำหนัก วิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี วิตามินซี มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น

ข้อควรระวังก่อนเข้ารับบริการ

ก่อนทำ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้

  • ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
  • ผู้ป่วยที่แพ้วิตามินหรือสารอาหารบางชนิด ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
  • ผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

IV Drip ย่อมาจาก ย่อมาจาก Intravenous Therapy ซึ่งแปลว่า การให้ยาหรือสารอาหารผ่านทางหลอดเลือดดำ

การทำ IV Drip วิตามินดีไหม

โดยทั่วไปแล้ว การทำ วิตามินดีถือว่าดีต่อร่างกาย เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่า วิตามินดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้

  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ วิตามินดีมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย
  • ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง วิตามินดีมีส่วนช่วยในการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน วิตามินดีมีส่วนช่วยในการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ดีขึ้น
  • ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย วิตามินดีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพลังงานให้ร่างกาย ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า
  • ช่วยลดน้ำหนัก วิตามินดีมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม การทำวิตามินดีก็อาจมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนี้

  • อาการแพ้ ผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้วิตามินดี ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
  • ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เข็ม การทำ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เข็ม เช่น อาการบวม แดง คัน หรือติดเชื้อ
  • ภาวะแทรกซ้อนจากวิตามินดีเกิน การทำ วิตามินดีในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ระดับแคลเซียมในเลือดสูง ไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ

ก่อนทำ IV Drip วิตามินดี ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

การดริปวิตามิน ช่วยให้ผิวขาวได้จริงไหม

ผิวขาวได้จริง เนื่องจากวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย

สูตรวิตามินผิวขาวที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  • สูตรวิตามินซี : วิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย
  • สูตรวิตามินเอ : วิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพออก เผยเซลล์ผิวใหม่ที่ดูกระจ่างใส ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและรอยหมองคล้ำ
  • สูตรวิตามินเอสูตรวิตามินอี : วิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอย

นอกจากนี้ ยังมีสูตรวิตามินผิวขาวอื่นๆ ที่นิยม เช่น สูตรวิตามินบี สูตรโคเอ็นไซม์คิว10 สูตรกรดอัลฟาไลโปอิก เป็นต้น การเลือกสูตรวิตามินผิวขาวควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล

IV Drip ลดน้ําหนัก สามารถลดน้ำหนักได้จริงไหม

สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สูตรวิตามินที่ใช้ ปริมาณวิตามินที่ใช้ สภาพร่างกาย และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล

สูตรวิตามินที่ได้รับความนิยมในการลดน้ำหนัก ได้แก่ สูตรวิตามินบี สูตรวิตามินซี สูตรวิตามินดี และสูตรกรดอะมิโน โดยวิตามินเหล่านี้มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้

ปริมาณวิตามินที่ใช้ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ปริมาณวิตามินที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อกำหนดปริมาณวิตามินที่เหมาะสม

สภาพร่างกายของแต่ละบุคคลก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำเพื่อประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

พฤติกรรมการใช้ชีวิตก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วย IV Drip ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

โดยทั่วไปแล้วสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ โดยผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน อย่างไรก็ตาม หากหยุดทำ และกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ น้ำหนักที่ลดลงอาจกลับมาเท่าเดิมได้

คำแนะนำในการลดน้ำหนักด้วย มีดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
  • เลือกสูตรวิตามินที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการของแต่ละบุคคล
  • ควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
  • ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญหากมีอาการผิดปกติหลังทำ

IV Drip อันตรายไหม

IV Drip โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยหากทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ แต่ก็มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนี้

  • อาการแพ้ ผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้วิตามินหรือสารอาหารบางชนิด ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ IV Drip
  • ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เข็ม การทำ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เข็ม เช่น อาการบวม แดง คัน หรือติดเชื้อ
  • ภาวะแทรกซ้อนจากวิตามินเกิน การทำ วิตามินในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ระดับแคลเซียมในเลือดสูง ไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สูตรวิตามินที่ใช้ ปริมาณวิตามินที่ใช้ สภาพร่างกาย และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล

ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพื่อประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

ควรทําบ่อยแค่ไหน

ความถี่ในการดริปวิตามินนั้นขึ้นอยู่กับสูตรวิตามินที่ใช้และความต้องการของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว สูตรวิตามินที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  • สูตรวิตามินผิวขาว : แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกัน 3-4 สัปดาห์
  • สูตรลดน้ำหนัก : แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกัน 4-6 สัปดาห์
  • สูตรบำรุงสุขภาพ : แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือตามคำแนะนำของแพทย์

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพื่อประเมินความถี่ที่เหมาะสม

นอกจากนี้ หากต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ควรทำ อย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป

ควรเลือกบริการที่ไหนดี โรงพยาบาลหรือ คลินิก ต่างกันไหม

โรงพยาบาลและคลินิกที่ให้บริการ ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้

โรงพยาบาล

  • ข้อดี
    • มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง
    • มีแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล
    • มีอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยและสะอาด
  • ข้อเสีย
    • ราคาอาจสูงกว่าคลินิก
    • อาจต้องรอคิวนาน

คลินิก

  • ข้อดี
    • ราคาอาจถูกกว่าโรงพยาบาล
    • สะดวกและเข้าถึงได้ง่ายกว่า
  • ข้อเสีย
    • มาตรฐานและความปลอดภัยอาจไม่เท่าโรงพยาบาล
    • แพทย์และพยาบาลอาจไม่มีประสบการณ์มากเท่าโรงพยาบาล

โดยสรุปแล้ว การเลือกสถานที่ทำ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ความปลอดภัย ควรเลือกสถานที่ที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง
  • ความสะดวก ควรเลือกสถานที่ที่สะดวกและเข้าถึงได้ง่าย
  • ราคา ควรเลือกสถานที่ที่มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณ

นอกจากนี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

สำหรับคำถามที่ว่า “ทำที่ไหนดี โรงพยาบาลหรือคลินิก” คำตอบขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลของแต่ละบุคคล ดังนี้

  • ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นหลัก ควรเลือกทำ ที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง มีแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล
  • ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกเป็นหลัก ควรเลือกทำ ที่คลินิก เนื่องจากสะดวกและเข้าถึงได้ง่ายกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า
  • ผู้ที่ให้ความสำคัญกับราคาเป็นหลัก ควรเลือกทำ IV Drip ที่คลินิก เนื่องจากราคาอาจถูกกว่าโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม ควรเลือกสถานที่ที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการ และอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ต้องสะอาดและปลอดภัย

ราคา เท่าไหร่

โดยในส่วนของราคาขึ้นอยู่กับสูตรของวิตามินและระยะเวลาในการทํา โดยโดยทั่วไปมีราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท

ราคา IV Drip นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • สูตรวิตามินที่ใช้ สูตรวิตามินแต่ละสูตรมีราคาแตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้ว สูตรวิตามินผิวขาวจะมีราคาแพงที่สุด รองลงมาคือสูตรลดน้ำหนัก และสูตรบำรุงสุขภาพ
  • ปริมาณวิตามินที่ใช้ ปริมาณวิตามินที่ใช้ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ปริมาณวิตามินที่มากขึ้นจะทำให้ราคาสูงขึ้น
  • ระยะเวลาในการทำ ระยะเวลาในการทำ แต่ละครั้งแตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้ว ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ราคาจึงแตกต่างกันไปตามระยะเวลา
  • สถานที่ทำ โรงพยาบาลและคลินิกที่ให้บริการ ต่างก็มีราคาที่แตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้ว โรงพยาบาลจะมีราคาแพงกว่าคลินิก

โดยสรุปแล้ว

คือการให้วิตามินเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดดำโดยตรง ช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ทั้งหมดเกือบ 100% ส่งผลให้เห็นผลได้เร็วกว่าการรับประทานวิตามิน

ประโยชน์ได้แก่

  • ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส
  • ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย
  • ช่วยเพิ่มพลังงาน
  • ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
  • ช่วยลดน้ำหนัก

โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยหากทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ แต่ก็มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนี้

  • อาการแพ้
  • ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เข็ม
  • ภาวะแทรกซ้อนจากวิตามินเกิน

ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ IV Drip เพื่อประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

ความถี่ในการดริปวิตามินนั้นขึ้นอยู่กับสูตรวิตามินที่ใช้และความต้องการของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว สูตรวิตามินที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  • สูตรผิวขาว : แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกัน 3-4 สัปดาห์
  • สูตรลดน้ำหนัก : แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกัน 4-6 สัปดาห์
  • สูตรบำรุงสุขภาพ : แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือตามคำแนะนำของแพทย์

การเลือกสถานที่ทำ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ความปลอดภัย ควรเลือกสถานที่ที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง
  • ความสะดวก ควรเลือกสถานที่ที่สะดวกและเข้าถึงได้ง่าย
  • ราคา ควรเลือกสถานที่ที่มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณ

ในส่วนของราคา นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • สูตรวิตามินที่ใช้
  • ปริมาณวิตามินที่ใช้
  • ระยะเวลาในการทำ
  • สถานที่ทำ

โดยสรุปแล้ว IV Drip เป็นทางเลือกหนึ่งในการเสริมวิตามินให้ร่างกาย แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า