PRP ตัดวงจรผมบาง ผมร่วง ฟื้นฟูผมแข็งแรงหนาเหมือนใหม่

PRP คืออะไร?
PRP (Platelet Rich Plasma) คือ เกล็ดเลือดเข้มข้นที่อุดมไปด้วยโกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) หรือสารกระตุ้นการเจริญเติบโต ที่ช่วยซ่อมแซม ฟื้นฟู กระตุ้นการทำงานของเซลล์ให้เจริญเติบโตและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยการนำเลือดจากร่างกายผู้เข้ารับการรักษาเพียงเล็กน้อย ไปปั่นเพื่อให้เกิดการแยกตัวของเลือด แล้วนำเฉพาะส่วนที่เป็นเกล็ดเลือดเข้มข้นมาฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งช่วยฟื้นฟูอาการ ผมบาง ผมร่วง ได้อีกด้วย

PRP แรร์ไอเทมฟื้นฟูเส้นผม

PRP ได้รับความนิยมสูงในการใช้รักษาบริเวณที่มีผมบาง หรือผมร่วง เพราะมีสารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และหนังศีรษะ ช่วยทำให้หนังศีรษะและรากผมแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเซลล์ผมที่หยุดทำงานให้กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง ผมจึงสามารถกลับมาหนาดกดำ แข็งแรงเหมือนใหม่ได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือเข้ารับการปลูกผม แต่ทั้งนี้การทำ PRP ต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการเข้ารับการรักษาจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ PRP เป็นประประจำ
เพราะการทำ PRP ผมไม่ใช่การปลูกผมถาวร จึงต้องทำอย่างสม่ำเสมอทุก 3-6 เดือนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่วิธีนี้ดีตรงที่ มีความเสี่ยงน้อยที่จะเกิดการแพ้เพราะเป็นการใช้เกล็ดเลือดของตัวเอง อีกทั้งการทำ PRP นั้น ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด, ใช้เวลาในการทำน้อย, ไม่เกิดรอยแผลเป็น และไม่ต้องพักฟื้นอีกด้วย จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา หรือไม่ต้องการพักฟื้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้หลังจากทำ PRP เป็นประจำคือ
- รากผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย
- กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม
- เส้นผมหนา แข็งแรง ไม่ลีบบาง
- ลดการเปราะขาด ของเส้นผม
- ช่วยให้ผมดกดำมากยิ่งขึ้น

ผู้ที่เหมาะกับการทำ PRP
- การทำ PRP มีความเสี่ยงต่ำ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหมาะกับผู้ที่
- ผมร่วง ผมบาง มีผมน้อยในระดับที่ไม่รุนแรง (ควรให้แพทย์ประเมินก่อนเข้ารับการบริการ)
- ต้องการให้ผมหนาดกดำ แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย
- ต้องการฟื้นฟูผมตั้งแต่รากผมถึงปลายผม
- ลดอาการเปราะบางของเส้นผม
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดปลูกผม
- ผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นหลังทำ
- ผู้ที่ไม่ต้องให้เกิดรอยแผลเป็น
ถึงแม้การทำ PRP ผมจะมีความเสี่ยงในการแพ้ต่ำมาก แต่วิธีการนี้ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคโลหิตจาง, โรคมะเร็ง, โรคผิวหนัง, หรือผู้ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ ฉะนั้นหากมีโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนเข้ารับบริการ
ผสานเทคนิค LED เพิ่มประสิทธิภาพให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นอีกขั้น
การฉายแสง LED บนหนังศีรษะ เป็นการฉายแสงสีแดงที่มีความยาวคลื่น 660 นาโนเมตร เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนหนังศีรษะ ทำให้เซลล์รากผมแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการเกิดใหม่ของผมได้อีกด้วย ทั้งนี้การฉายแสง LED ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผม, การทำทรีตเมนต์, หรือการทำ PRP ให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น และสามารถทำได้บ่อยครั้งอีกด้วย

การเตรียมตัวก่อนทำ PRP
- ควรแจ้งแพทย์ หากมีโรคประจำตัว หรือต้องทานยาเป็นประจำ
- งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น พลาวิกซ์ (Plavix) , แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), โสม หรือสมุนไพรอื่นๆ อย่างน้อย 7 วัน
- งดการใช้ยา Rogaine, Minoxidil หรือยาปลูกผมอื่นๆ ที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมอย่างน้อย 7 วัน
- งดทำสีหรือใช้สารเคมี ความร้อนต่างๆ กับผมก่อนมาทำประมาณ 2-3 สัปดาห์
- ควรสระผมก่อนเข้ารับบริการ งดการใช้ครีมนวด หรือทรีตเมนต์บำรุงผมทุกประเภท
การดูแลตัวเองหลังทำ PRP
- งดการเกา ถูบริเวณที่ทำ PRP
- งดใช้สารเคมี หรือความร้อนต่างๆ 1-2 สัปดาห์
- งดสระผมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง