มั่นใจไร้กังวลเรื่องผมร่วง: ปลูกผมกับ The Art แล้วคุณจะรัก

มั่นใจไร้กังวลเรื่องผมร่วง: ปลูกผมกับ The Art แล้วคุณจะรัก

การปลูกผมจัดเป็นเทคนิคการย้ายรากผมชนิดหนึ่งและใช้เพียงยาชาเฉพาะที่เท่านั้น จึงถือว่าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เส้นผมสามารถขึ้นได้จริงและยาวได้ปกติอยู่กับเจ้าของไปตลอดเป็นการปลูกผมถาวรจริงๆ  และคนที่มีผมร่วงบางจากกรรมพันธุ์ รากผมบริเวณท้ายทอยและเหนือกกหูจะไม่ถูกทำลายด้วยอิทธิพลของฮอร์โมน DHT เพราะฉะนั้นเวลาย้ายรากผมมาปลูกตำแหน่งที่ผมบางแล้วเส้นผมที่ขึ้นใหม่จะไม่กลับมาร่วงหรือมีเส้นเล็กลงอีก

สารบัญ ปลูกผม

  • ศัลยกรรมปลูกผม คือ
  • ศัลยกรรมปลูกผม ราคาเท่าไหร่
  • เทคนิคการปลูกผม FUE
  • เทคนิคปลูกผม (Partial-Shaven FUE)
  • ปลูกผม ด้วยเทคนิค FUE ราคาเท่าไหร่
  • ความแตกต่างในการปลูกผมระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย
  • เทคนิคการปลูกผม-DHI
  • ปลูกผม ด้วยเทคนิค DHI
  • การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดปลูกผม
  • การดูแลตัวเองหลังปลูก
  • การปลูกผมถาวร vs การปลูกผมปกติ
  • ศัลยกรรมปลูกผม ผู้หญิงสามารถทำได้ไหม
  • Q&A คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการปลูกผม
  • ปลูกผม ที่ไหนดี ควรเลือกจากอะไรบ้าง
  • ปลูกผมที่ The Art Hair Center ดีอย่างไร
  • แพทย์ผู้ชำนาญการปลูกผม The Art Hair Center
  • ศัลยกรรมปลูกผม คือ

    ศัลยกรรมปลูกผมคือ การย้ายรากผมจากบริเวณที่มีเส้นผมหนาแน่น (บริเวณท้ายทอย) ไปยังบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน โดยแพทย์จะใช้เทคนิคเฉพาะทางในการแยกเอารากผมทีละกราฟต์ (Follicular Unit) ออกมา ปลูกถ่ายลงในบริเวณที่ต้องการ

    ศัลยกรรมปลูกผมเป็นขั้นตอนการรักษาที่ใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการสูญเสียผมหรือหัวล้าน มีหลายวิธีในการปลูกผม อาทิเช่น

    1. การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction): เป็นวิธีที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง โดยจะใช้เครื่องมือพิเศษในการเอาเซลล์รากผมจากบริเวณที่ยังมีผมหนาแน่นมาปลูกในบริเวณที่หัวล้านหรือผมบาง
    2. การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation): เป็นวิธีที่ต้องตัดแถบผิวหนังที่มีผมออกจากบริเวณหลังศีรษะแล้วนำมาแบ่งเป็นหน่วยๆ ก่อนจะปลูกลงในบริเวณที่ต้องการ
    3. การปลูกผมด้วยเทคนิคอื่นๆ: เช่น การใช้เลเซอร์ หรือการใช้ยากระตุ้นการเติบโตของผม

    การตัดสินใจเลือกวิธีการปลูกผมควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น สภาพของผมและหนังศีรษะ ความต้องการของผู้ป่วย และคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน รวมถึงค่าใช้จ่ายและเวลาในการฟื้นตัวที่ต้องใช้

    การปลูกผมสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจและปรับปรุงภาพลักษณ์ภายนอกของบุคคลได้ แต่ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนการรักษาและมีความเข้าใจเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่คาดหวังได้อย่างเหมาะสม

    ศัลยกรรมปลูกผม ราคาเท่าไหร่

    ราคาศัลยกรรมปลูกผมสามารถแตกต่างกันไปอย่างมากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคการปลูกผมที่ใช้ (เช่น FUE, FUT, DHI), ประเทศและที่ตั้งของคลินิกหรือโรงพยาบาล, ชื่อเสียงและความชำนาญของแพทย์, และจำนวนหน่วยรากผมที่ต้องการปลูก. นี่คือภาพรวมของช่วงราคาที่คุณอาจคาดหวัง

    • FUE (Follicular Unit Extraction):
      • ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป: ราคาอาจอยู่ระหว่าง $4,000 ถึง $15,000 หรือมากกว่า
      • ในเอเชีย (เช่น ประเทศไทย, อินเดีย): ราคาอาจเริ่มต้นที่ประมาณ $1,500 ไปจนถึง $5,000 หรือมากกว่า
    • FUT (Follicular Unit Transplantation):
      • ราคาอาจคล้ายกับ FUE แต่บางครั้งอาจถูกกว่าเล็กน้อย เนื่องจากเป็นเทคนิคที่เก่ากว่า
    • DHI (Direct Hair Implantation):
      • ราคาสำหรับ DHI อาจสูงกว่า FUE และ FUT เล็กน้อย เนื่องจากต้องการเครื่องมือพิเศษและความชำนาญสูง ราคาอาจอยู่ในช่วง $2,000 ถึง $20,000 ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น

    ราคาเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณค่า และสำหรับการปลูกผมจำนวนมากหรือการรักษาที่มีความซับซ้อนอาจมีราคาสูงกว่านี้ คุณควรติดต่อคลินิกหรือโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อขอรายละเอียดและราคาที่แน่นอนสำหรับกรณีของคุณ อย่าลืมขอใบเสนอราคาจากหลายที่เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพและราคาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ.

    เทคนิคการปลูกผม FUE (Follicular Unit Extractio) คืออะไร

    ปลูกผมเทคนิค FUE หรือ Follicular Unit Extraction เป็นการปลูกผมถาวรแบบย้ายผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว ไม่มีแผลเย็บเหมือนวิธีทั่วไป (Strip FUT) โดยวิธีนี้จะใช้หัวเจาะขนาดเล็กมากๆ เจาะลงไปรอบๆ กอผมลึกลงไปถึงรากผมด้านล่าง จากนั้นแต่ละกอผมจะถูกดึงออกมาจากหนังศีรษะ ซึ่งเป็นการปลูกผมเทคนิคมาตรฐานสากลที่ใช้ทั่วโลก ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่ให้ผลเรื่องความสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่มีแผลเป็นและฟื้นตัวไวมาก ศัลยกรรมปลูกผมถาวรจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาผมบางที่ได้ผลมากที่สุดในเวลานี้ และยังเป็นหนึ่งในวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมสูงสุดเนื่องจากมีการรบกวนน้อยและไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่ชัดเจนบนหนังศีรษะ ขั้นตอนการทำ FUE ประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:

    1. การเตรียมผู้ป่วย: บริเวณที่จะเอาเซลล์รากผมออก (บริเวณผู้บริจาค) และบริเวณที่จะทำการปลูก (บริเวณรับ) จะถูกตัดผมให้สั้นเพื่อความสะดวกในการทำงาน
    2. การให้ยาชาท้องถิ่น: จะให้ยาชาที่บริเวณผู้บริจาคและบริเวณรับเพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการทำศัลยกรรม
    3. การเก็บเซลล์รากผม: ใช้เครื่องมือพิเศษมีขนาดเล็กมากเพื่อเอาเซลล์รากผม (follicular units) ออกจากบริเวณผู้บริจาค โดยทำการเก็บแต่ละหน่วยอย่างแยกส่วนโดยไม่ต้องตัดแถบผิวหนังออกมา
    4. การเตรียมหน่วยรากผม: หลังจากที่เก็บหน่วยรากผมได้แล้ว จะทำการเตรียมและแยกเซลล์รากผมเหล่านั้นให้พร้อมสำหรับการปลูก
    5. การทำรูรับ: แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษทำรูเล็กๆ บนบริเวณที่จะทำการปลูกผมบนหนังศีรษะ
    6. การปลูกหน่วยรากผม: นำหน่วยรากผมที่เตรียมไว้ปลูกลงในรูที่ทำไว้บนหนังศีรษะ โดยจะจัดเรียงตามแผนที่วางไว้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติที่สุด

    ขั้นตอนนี้ต้องการความชำนาญและประสบการณ์สูงจากศัลยแพทย์ และมีข้อดีคือลดการเกิดแผลเป็นที่หนังศีรษะ ให้ระยะเวลาการฟื้นตัวสั้น และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายอาจสูงและอาจต้องการหลายเซสชั่นในบางกรณีเพื่อให้ได้ความหนาแน่นของผมตามที่ต้องการ

    เทคนิคปลูกผม (Partial-Shaven FUE) Partial-Shaven Follicular Unit Extraction

    ปลูกผมเทคนิค Partial-Shaven FUE จะคล้ายกับเทคนิค FUE แต่แตกต่างกันที่เทคนิคนี้ผมบริเวณด้านหลังจะไม่ถูกโกนออกทั้งหมด แต่กอผมที่หมอเลือกเจาะออกมาจะถูกตัดให้สั้นก่อน แล้วค่อยทำการเจาะกอรากผออกมออกมา ข้อดีของการปลูกผมวิธีนี้คือ ผมด้านหลังจะยาวเหมือนเดิม ดังนั้นแผลเป็นจะโดนผมบังตั้งแต่วันแรกที่ปลูกเลย วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากโกนผมด้านหลังโดยเฉพาะการปลูกผมผู้หญิง ทั้งนี้ทั้งนั้นผมที่ถูกปลูกจะเป็นผมที่สั้นจึงทำให้ดูแลง่าย และราคาไม่แพงเท่ากับการปลูกผมเทคนิค Long Hair FUE ด้วย แต่ด้วยความที่คุณหมอยังต้องทำงานกับผมที่ยาว การปลูกผมเทคนิคนี้จะใช้เวลามากกว่าและราคาสูงกว่าการปลูกผมแบบ FUE ปกติ

    เทคนิคการปลูกผม (Partial-Shaven FUE) Partial-Shaven Follicular Unit Extraction

    การปลูกผมด้วยเทคนิคนี้จะเหมาะมากสำหรับผู้หญิง หรือผู้ที่ไม่ต้องการอยากตัดผมสั้นหรือโกนผมเลย เพราะจะไม่ต้องโกนผม หรือตัดผมสั้นด้านหลังเลย กราฟผมที่เจาะออกมา จะได้เป็นกราฟผมทั้งเส้นแล้วนำไปปลูกบริเวณที่ต้องการ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังปลูกผมเสร็จทันที เพราะแผลหลังปลูกจะโดนผมบังไว้ตั้งแต่วันแรกที่ปลูก ผมเรียงเส้นสวยเป็นธรรมชาติ แต่เทคนิคจะใช้เทคนิคขั้นสูงของแพทย์ผู้ชำนาญการ รวมทั้งเวลามากกว่าเทคนิคชนิดอื่น

    ปลูกผม ด้วยเทคนิค FUE ราคาเท่าไหร่

    ราคาการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) สามารถแตกต่างกันไปอย่างมากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเทศที่ทำการรักษา, ความชำนาญและชื่อเสียงของแพทย์ผู้ทำการรักษา, จำนวนหน่วยรากผมที่ต้องการปลูก, และคุณภาพของคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ให้บริการ ดังนั้นราคาที่แน่นอนอาจแตกต่างไปในแต่ละกรณี แต่สามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับช่วงราคาได้ดังนี้:

    • ในสหรัฐอเมริกา ราคาสามารถอยู่ระหว่าง $4,000 ถึง $15,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยรากผมที่ปลูก
    • ในยุโรป ราคามักจะอยู่ในช่วงที่คล้ายกับสหรัฐอเมริกา แต่อาจพบราคาที่ต่ำกว่าในบางประเทศ
    • ในเอเชีย, เช่น ประเทศไทย หรือ อินเดีย, ราคาอาจต่ำกว่ามาก เริ่มต้นจากประมาณ $1,500 ไปจนถึง $5,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการรักษา

    ราคาเหล่านี้มักจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรักษา รวมถึงการตรวจสุขภาพก่อนการรักษา, ค่าใช้จ่ายของการผ่าตัด, การดูแลหลังการรักษา, และการติดตามผล อย่างไรก็ตาม ควรติดต่อคลินิกหรือโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อขอรายละเอียดและราคาที่แน่นอน และควรพิจารณาขอใบเสนอราคาจากหลายๆ ที่เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพและราคาที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง.

    ขั้นตอนการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE

    เทคนิคการปลูกผม (FMCT) Follicular Micro Cloning Technique

    เทคนิคพิเศษสำหรับการปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยการปลูกถ่ายรากผมในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ซึ่งเทคนิคนี้สามารถเพิ่มจำนวนรากผมใหม่พร้อมกระตุ้นการเจริญเติบโตพร้อมกับความแข็งแรงให้กับรากผมที่มีอยู่เดิม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นในการแก้ไขภาวะผมร่วงผมบาง และศีรษะล้าน

    เทคนิคการปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation)คืออะไร

    เทคนิคการปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation) เป็นหนึ่งในเทคนิคการปลูกผมที่ทันสมัยซึ่งมีจุดเด่นในการให้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติและมีการรบกวนน้อยต่อบริเวณที่ทำการรักษา เทคนิคนี้ใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า “DHI Implanter” หรือ “Choi Pen” ในการปลูกถ่ายรากผมโดยตรงลงบนหนังศีรษะโดยไม่ต้องสร้างรูรับก่อน ขั้นตอนหลักๆ ของการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ได้แก่:

    1. การเตรียมผู้ป่วย: เช่นเดียวกับ FUE, บริเวณที่จะเก็บรากผมและบริเวณที่จะปลูกถ่ายจะถูกเตรียมพร้อม ผมในบริเวณที่จะเก็บรากผมอาจถูกตัดให้สั้นเพื่อความง่ายในการเก็บรากผม
    2. การเก็บรากผม: ใช้เทคนิค FUE ในการเก็บรากผมจากบริเวณผู้บริจาคโดยใช้เครื่องมือพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อลดการทำลายรากผมในระหว่างการเก็บ
    3. การใช้ Choi Pen: รากผมที่เก็บได้จะถูกโหลดเข้าไปใน Choi Pen และแพทย์จะใช้ปากกานี้ในการปลูกถ่ายรากผมโดยตรงลงบนบริเวณที่ต้องการ โดยไม่ต้องสร้างรูรับก่อน
    4. การควบคุมความลึกและทิศทาง: เทคนิคนี้ช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมความลึกและทิศทางของการปลูกถ่ายรากผมได้ดีกว่าเทคนิคอื่นๆ ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
    5. การฟื้นตัว: ระยะเวลาการฟื้นตัวหลังการทำ DHI อาจสั้นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคอื่นๆ เนื่องจากมีการรบกวนหนังศีรษะน้อยกว่า

    เทคนิค DHI มีข้อดีหลายประการ เช่น ความเจ็บปวดน้อยลงหลังการรักษา, ระยะเวลาการฟื้นตัวที่สั้นลง, และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่าเทคนิคอื่นๆ และต้องการความชำนาญสูงจากผู้ทำการรักษา เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    ปลูกผม ด้วยเทคนิค DHI  ราคาเท่าไหร่

    ราคาการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI (Direct Hair Implantation) อาจแตกต่างกันอย่างมากตามหลายปัจจัย เช่น ประเทศที่ทำการรักษา, ความชำนาญและชื่อเสียงของแพทย์, จำนวนหน่วยรากผมที่ต้องการปลูก, และคุณภาพของคลินิกหรือโรงพยาบาล ดังนั้นราคาที่แน่นอนอาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี แต่สามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับช่วงราคาได้ดังนี้:

    • ในสหรัฐอเมริกา ราคาสำหรับการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI อาจอยู่ระหว่าง $5,000 ถึง $20,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยรากผมและความซับซ้อนของการรักษา
    • ในยุโรป ราคาอาจคล้ายคลึงกับสหรัฐอเมริกา แต่ในบางประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการรักษาที่ต่ำกว่า ราคาอาจเริ่มต้นที่ประมาณ $3,000 ไปจนถึง $15,000
    • ในเอเชีย, เช่น ประเทศไทย, อินเดีย, หรือตุรกี, ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการท่องเที่ยวทางการแพทย์ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำ ราคาอาจอยู่ระหว่าง $2,000 ถึง $7,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการรักษา

    โดยจะเห็นได้ว่าราคาของการปลูกด้วยเทคนิคนี้จะมีราคาสูงกว่าแบบ FUE โดนราคาเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณค่า และควรติดต่อคลินิกหรือโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อขอรายละเอียดและราคาที่แน่นอน สิ่งสำคัญคือต้องขอใบเสนอราคาจากหลายแห่งเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพและราคาที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง นอกจากนี้ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นนอกเหนือจากการผ่าตัด เช่น ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การพักฟื้น และการติดตามผลหลังการรักษา

    การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดปลูกผม

    • แจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้งในกรณีที่เป็นโรคประจำตัว หรือจำเป็นต้องทานยาเป็นประจำ
    • งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น พลาวิกซ์ , แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), โสม หรือสมุนไพรอื่นๆ อย่างน้อย 7 วัน
    • งดการใช้ Rogaine หรือ Minoxidil ที่เป็นสารช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมอย่างน้อย 7 วัน
    • ในกรณีของผู้ป่วยโรคความดันสูงที่ใช้ยา Beta Blocker จำเป็นต้องแจ้งแพทย์เพื่อขอเปลี่ยนยาก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน เนื่องจากอาจมีผลกับยาชาที่ใช้ในการผ่าตัด
    • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ก่อนและหลังการผ่าตัด 48 ชั่วโมง
    • พักผ่อนให้เพียงพอเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
    • ในวันผ่าตัดให้สวมเสื้อผ่าหน้ามาเข้ารับบริการ เนื่องจากหลังผ่าตัดไม่ควรสวมเสื้อที่ต้องกระทบศีรษะบริเวณที่ผ่าตัดเมื่อต้องสวมเข้าหรือถอดออก
    • งดดื่มชาและกาแฟก่อนการผ่าตัด
    • ควรมีผู้ดูแลมาด้วยในวันผ่าตัด และไม่ควรขับรถมาเอง เนื่องจากบางเคสจำเป็นต้องใช้ยานอนหลับในระหว่างผ่าตัด ทำให้มีอาการสะลึมสะลือได้เมื่อผ่าตัดเสร็จ

    ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนปลูกผม มีอะไรบ้าง

    การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมปลูกผมเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงหรือความไม่สะดวกหลังการรักษา นี่คือคำแนะนำทั่วไปสำหรับการเตรียมตัวก่อนปลูกผม:

    1. การปรึกษาแพทย์

    • การประเมินสุขภาพ: อาจต้องมีการตรวจสุขภาพทั่วไปและการประเมินบริเวณที่จะทำการปลูกผม เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
    • ประวัติการรักษา: แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการรักษาและยาที่กำลังใช้งานอยู่

    2. การหลีกเลี่ยงบางสิ่ง

    • หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมบางชนิด: หยุดใช้ยาเจือจางเลือด เช่น แอสไพริน และอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามิน E, โอเมก้า 3 อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของการเลือดออก
    • เลิกสูบบุหรี่: ควรเลิกสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด เนื่องจากสารในบุหรี่สามารถทำให้การฟื้นตัวช้าลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
    • หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์: หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด

    3. การดูแลสุขภาพ

    • การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ: ดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ แต่หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหนักๆ ก่อนการรักษา
    • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: มีการรับประทานอาหารที่สมดุลและดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่ดีสำหรับการฟื้นตัว

    4. การวางแผนการเดินทางและการฟื้นตัว

    • การจัดการเวลา: ต้องวางแผนเวลาสำหรับการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด ซึ่งอาจรวมถึงการหยุดพักจากงานและการจำกัดกิจกรรมทางกายภาพ
    • การเตรียมพื้นที่พักฟื้น: มีการเตรียมสถานที่สำหรับพักฟื้นที่สะดวกสบายและสามารถเข้าถึงของใช้จำเป็นได้ง่าย

    การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน สำคัญที่สุดคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลคุณอย่างละเอียดและถามถึงข้อสงสัยหรือความกังวลที่คุณอาจมีก่อนการผ่าตัด.

    การดูแลตัวเองหลังปลูก

    การดูแลตัวเองหลังการปลูกผมเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือปัญหาอื่นๆ นี่คือคำแนะนำพื้นฐานสำหรับการดูแลตัวเองหลังการปลูกผม:

    1. การดูแลบริเวณที่ผ่าตัด

    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้: หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้บริเวณที่ได้รับการปลูกผมและบริเวณผู้บริจาคในช่วงไม่กี่วันแรกหลังการผ่าตัด
    • การทำความสะอาด: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการทำความสะอาดบริเวณที่ได้รับการปลูกผม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้สเปรย์หรือการล้างด้วยน้ำเกลือ

    2. การใช้ยา

    • ยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ: ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดและป้องกันการติดเชื้อ

    3. การนอนหลับ

    • รักษาท่านอน: พยายามนอนหลับด้วยการยกศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดการบวมและช่วยให้บริเวณที่ได้รับการปลูกผมได้รับการหมุนเวียนของเลือดที่ดี

    4. การหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง

    • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดเหงื่อมากในช่วงสองสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
    • หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง: หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงบนบริเวณที่ได้รับการปลูกผมในช่วงไม่กี่เดือนแรก

    5. การดูแลเส้นผม

    • การล้างผม: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการล้างผม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้แชมพูอ่อนโยนและวิธีการล้างที่เฉพาะเจาะจง
    • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม: หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมจนกว่าบริเวณที่ผ่าตัดจะหายดี

    6. การตรวจติดตาม

    • ติดตามผล: ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจติดตามผลการรักษาและประเมินผลลัพธ์ของการปลูกผม

    การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและมีผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการปลูกผม สำคัญที่สุดคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลคุณอย่างละเอียดและถามถึงข้อสงสัยหรือความกังวลที่คุณอาจมี.

    ปลูกผมถาวร ต่างจากการปลูกผมปกติไหม

    การปลูกผมถาวรหมายถึงการปลูกผมที่ใช้เทคนิคที่ทำให้ผลลัพธ์มีความคงทนและไม่ต้องทำซ้ำในอนาคต ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการศัลยกรรมปลูกผมในปัจจุบัน การปลูกผมด้วยเทคนิคที่ทันสมัย เช่น FUE (Follicular Unit Extraction) หรือ FUT (Follicular Unit Transplantation) ถือเป็นการปลูกผมที่มีผลถาวร เนื่องจากเซลล์รากผมที่ถูกย้ายมาจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในบริเวณที่ได้รับการปลูกถ่าย ซึ่งไม่ได้ต่างกับการปลูกผมปกติเลยนั่นเอง

    การปลูกผมถาวร vs การปลูกผมปกติ

    • การปลูกผมถาวร:
      • ใช้เซลล์รากผมจากบริเวณที่มีการเจริญเติบโตของผมอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วง (เช่น บริเวณหลังศีรษะ) ซึ่งหมายความว่าผมที่ปลูกถ่ายจะยังคงเติบโตอย่างถาวรในบริเวณใหม่
      • เน้นการให้ผลลัพธ์ที่คงทนและไม่ต้องการการทำซ้ำหลายครั้ง เว้นแต่ความต้องการของผู้ป่วยจะเปลี่ยนแปลงไป
    • การปลูกผมปกติ:
      • อาจหมายถึงการใช้เทคนิคการปลูกผมทั่วไปที่ไม่ระบุเฉพาะถึงการใช้เทคโนโลยีหรือเทคนิคที่ทันสมัย
      • ในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้วิธีการชั่วคราวหรือการรักษาที่ไม่ใช่การผ่าตัด เช่น การใช้วิกผมหรือผลิตภัณฑ์เพิ่มความหนาแน่นของผม ซึ่งไม่ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร

    การเลือกวิธีการปลูกผมควรพิจารณาจากความต้องการของผู้ป่วย สภาพของผมและหนังศีรษะ และคำแนะนำของแพทย์ การปลูกผมด้วยเทคนิคทันสมัยนั้นมีเป้าหมายเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ดังนั้นผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่คงทนควรพิจารณาเทคนิคเหล่านี้เป็นหลัก.

    ศัลยกรรมปลูกผม ผู้หญิงสามารถทำได้ไหม

    ผู้หญิงสามารถทำศัลยกรรมปลูกผมได้เช่นกัน แม้ว่าการสูญเสียผมจะพบบ่อยมากในผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็สามารถประสบปัญหาเรื่องผมบางหรือหัวล้านได้เช่นกัน เหตุผลหลักที่ทำให้ผู้หญิงอาจต้องการทำศัลยกรรมปลูกผม ได้แก่ การสูญเสียผมจากสาเหตุทางพันธุกรรม (ศีรษะล้านแบบหญิง), การบาดเจ็บจากการดึงผมหรือการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่รุนแรง, หรือสภาพทางการแพทย์ที่มีผลต่อการสูญเสียผม เช่น โรคไทรอยด์ที่ผิดปกติ

    ความแตกต่างในการปลูกผมระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย

    • รูปแบบการสูญเสียผม: ผู้หญิงมักมีรูปแบบการสูญเสียผมที่แตกต่างจากผู้ชาย โดยทั่วไปผู้หญิงจะมีผมบางทั่วทั้งศีรษะ ไม่ใช่เฉพาะที่หน้าผากหรือบนยอดศีรษะ เช่นเดียวกับผู้ชาย
    • การประเมินและการวางแผน: ก่อนทำศัลยกรรมปลูกผม แพทย์จะทำการประเมินอย่างละเอียดเพื่อตัดสินใจว่าผู้ป่วยเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมหรือไม่ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
    • เทคนิคการปลูกผม: เทคนิคการปลูกผมที่ใช้กับผู้หญิงไม่แตกต่างจากเทคนิคที่ใช้กับผู้ชาย ทั้ง FUE และ FUT สามารถใช้ได้กับผู้หญิง แต่การเลือกเทคนิคอาจขึ้นอยู่กับปริมาณผมบริเวณผู้บริจาคและเป้าหมายของการรักษา

    การพิจารณาพิเศษ

    • ความคาดหวัง: สำคัญที่ผู้หญิงควรมีความคาดหวังที่เป็นจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการรักษา แพทย์จะช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถบรรลุได้จากการปลูกผม
    • การรักษาเพิ่มเติม: ในบางกรณี อาจแนะนำให้มีการรักษาเพิ่มเติม เช่น การใช้ยาที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของผมหรือการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการปลูกผม

    การปลูกผมสามารถเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงที่ประสบปัญหาผมบางหรือสูญเสียผม แต่การปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการตัดสินใจว่าการรักษานี้เหมาะสมกับคุณหรือไม่ และเพื่อวางแผนการรักษาที่ดีที่สุด.

    Q&A คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการปลูกผม

    เมื่อปลูกผมไปแล้ว ผมที่ปลูกจะอยู่นานแค่ไหน ?

    ผมที่ปลูกไปแล้วจะอยู่ถาวร เพราะเป็นการย้ายรากผมมาปลูก จึงมีการเติบโตเหมือนผมปกติ ถ้ามีการหลุดร่วง ก็จะหลุดร่วงตามปกติ ตามวงจรชีวิตของผมทั่วไป

    หลังการปลูกผมนานเท่าไหร่จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ?

    ในช่วง 1-3 เดือนแรก ผมที่นำมาปลูกจะหลุดร่วงออกไปก่อน ซึ่งจำนวนการหลุดร่วงจะไม่เท่ากันในแต่ละคน ผมจะเริ่มขึ้นใหม่ประมาณเดือนที่ 4 เป็นต้นไป และจะเห็นผลชัดเจนในช่วงเดือนที่ 8-9

    ปลูกผมเทคนิค FUE ดีกว่าเทคนิคอื่นอย่างไร ?

    เทคนิคการปลูกผมถาวรที่ The Art Clinic คือใช้เทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการถอนรากผมออกมาทีละรากทีละกอ แล้วนำมาปลูกบริเวณที่ต้องการ แผลจากการเจาะรากผมด้วยเทคนิคนี้จะมีขนาดเล็กมากเพียง 1 มิลลิเมตร ทำให้ดูแลง่ายและแผลหายเร็วกว่าเทคนิคที่ใช้การผ่าตัดแบบแแผลยาว

    ศัลยกรรมปลูกผมเจ็บไหม

    การปลูกผมถาวรใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ ฉีดลงไปในบริเวณที่ต้องการ เนื่องจากไม่ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงไม่มีการวางยาสลบ อาจจะรู้สึกเจ็บบ้างในบริเวณที่ฉีดยาชา แต่จะมีการลดความเจ็บปวดด้วยขนาดของเข็มฉีดยาที่เล็กเป็นพิเศษ อาจะมีการให้ยาชาที่ทำให้ง่วงซึมบ้างหากผู้เข้ารับบริการมีความวิตกกังวลมาก

    ปลูกผมไป สามารถทำงานได้ตามปกติไหม ?

    สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติในวันถัดไป แต่ต้องระมัดระวังบริเวณปลกผมที่แพทย์แนะนำและมาพบแแพทย์ตามนัดในช่วง 1 ถึง 3 วันแรกเพื่อเช็คบริเวณที่ปลูกผมและสระผมเพื่อทำความสะอาดแผล

    การปลูกผมที่ The Art Clinic มีความปลอดภัยหรือไม่ ?

    การปลูกผมที่  The Art Clinic ทำในห้องผ่าตัดพร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน บุคลากร แพทย์ผู้ทำการปลูกผมที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีเป็นผู้ทำการปลูกผมให้ในทุกขั้นตอนตั้งแต่ให้คำปรึกษา ประเมินกราฟ ออกแบบแนวเส้นผม จนถึงขั้นตอนการปลูกผม จึงมั่นใจได้ในเรื่องความสะอาด และการปลูกผมที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย

    ผมบริเวณที่ย้ายมาปลูกจะบางลงหรือไม่?

    ผมบริเวณด้านหลังที่ย้ายมาปลูกจะมีความหนาแน่นมากกว่าบริเวณด้านหน้าหลายเท่า ซึ่งแพทย์จะทำการคำนวณแล้วว่าย้ายมาได้เท่าไหร่ จึงไม่ต้องกังวลว่าการย้ายรากผมบริเวณนี้จะทำให้ผมด้านหลังดูบางลงมากเกินไป

    ผลข้างเคียงที่ได้จากการปลูกผมมีอะไรบ้าง?

    หลังจากการปลูกผมจะมีอาการบวมที่หน้าผากจากการใช้ยาชาเฉพาะที่บ้างประมาณ 3-4 วัน ซึ่งจะไม่มีอันตรายใดๆและหายไปเองได้ อาจจะมีจุดแดงๆหรือผิวบริเวณหนังศีรษะดูเป็นสีแดง ซึ่งเกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังบริเวณนั้นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล สามารถหายไปเองโดยใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือน

    ปลูกผม ที่ไหนดี ควรเลือกจากอะไรบ้าง

    การเลือกสถานที่ปลูกผมที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะมีผลต่อคุณภาพและความสำเร็จของการรักษา นี่คือปัจจัยหลักๆ ที่คุณควรพิจารณา:

    1. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์

    • เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการปลูกผม เพราะการปลูกผมไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการย้ายเซลล์รากผม แต่ยังรวมถึงการออกแบบเส้นผมที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล

    2. การรับรองและใบอนุญาต

    • ตรวจสอบว่าคลินิกและแพทย์มีการรับรองและใบอนุญาตที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการศัลยกรรมปลูกผมหรือไม่

    3. รีวิวและผลลัพธ์ก่อนหน้า

    • ค้นหารีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการและขอดูผลงานก่อนหน้านี้ เพื่อประเมินความพึงพอใจและคุณภาพของการรักษา

    4. เทคโนโลยีและเทคนิคการรักษา

    • สอบถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีและเทคนิคการปลูกผมที่คลินิกใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาใช้เทคนิคที่ทันสมัยและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ

    5. การดูแลหลังการรักษา

    • คลินิกควรมีการติดตามผลหลังการรักษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการปลูกผม

    6. ความโปร่งใสของราคาและค่าใช้จ่าย

    • ควรเลือกคลินิกที่ให้ข้อมูลราคาและค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน รวมถึงอธิบายรายละเอียดของการรักษาและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

    7. การสื่อสารและการให้ข้อมูล

    • ควรรู้สึกสบายใจเมื่อสื่อสารกับทีมแพทย์และพนักงาน พวกเขาควรให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและตอบทุกคำถามของคุณอย่างเต็มใจ

    การเลือกสถานที่ปลูกผมที่ดีที่สุดสำหรับคุณควรพิจารณาจากข้อมูลและการวิจัยเหล่านี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณพอใจและมีความเสี่ยงต่ำที่สุด.

    ปลูกผมที่ The Art Hair Center ดีอย่างไร ?

    เทคนิคพิเศษกว่าที่อื่น

    ความคงเดิมให้ดูเป็นธรรมชาติ และความต้องการของคนไข้ทุกท่านเป็นสิ่งสำคัญ การปลูกผมโดยการดีไซน์ไรผมให้รับกับใบหน้ามากที่สุดด้วยเทคนิค Cuztomized Hair Design เพื่อป้องกันการเกิดใหม่ของแนวไรผมขึ้นคนละทิศคนละทาง ไม่เป็นไปในแนวไรผมเดิม และทำให้ได้เส้นผมที่มีอัตราติดสูงที่สุด

    ไร้รอยแผลเป็น

    ไม่มีการผ่าตัด แผลหายไว ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูงมาก ไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนภายหลัง

    มีความปราณีต

    ใส่ใจทุกรายละเอียด สามารถดีไซน์แนวผมให้เข้ากับแต่ละบุคคล

    เห็นผลทันทีหลังทำ

    การปลูกผมด้วยเทคนิคเฉพาะที่ The Art Hair Center ทำให้คุณเห็นแนวไรผมใหม่ขึ้นมาทันทีหลังการปลูกผมเสร็จ และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลย

    ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี

    ทีมแพทย์เฉพาะทางและทีมปลูกผมมากประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับในฝีมือและผลลัพธ์อย่างดีมามากกว่า 10 ปี

    แพทย์ผู้ชำนาญการปลูกผม The Art Hair Center

    หมอเมย์

    พญ.เมธาวดี หนุนภักดี

    รีวิวปลูกผม The Art Hair Center

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า