ปลูกผม พลิกชีวิต ปรับรูปหน้าเสริมโหงวเฮ้งให้เงินปัง งานรุ่ง

เชื่อไหม! ปลูกผมไม่ใช่แค่เรื่องย้ายเซลล์ผมมาปลูกตรงที่ต้องการแล้วจบงาน แต่การปลูกผมเป็นเรื่องของศาสตร์แห่งความเชื่ออย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน ถ้าไม่อยากปลูกผมผิดชีวิตเปลี่ยน เพราะโหงวเฮ้งไม่เหมือนเดิม ต้องใช้แพทย์ผู้มีความรู้ด้านศาสตร์แห่งโหงวเฮ้ง และเชี่ยวชาญด้านศิลป์แห่งการออกแบบ ในการดีไซน์แนวผมและสร้างกรอบใบหน้าตามหลักโหงวเฮ้งท เพื่อช่วยเสริมเรื่องงาน เงิน ชีวิตให้ปังยิ่งขึ้น พร้อมทั้งดีไซน์ให้กรอบหน้าดูสวย มีความธรรมชาติเสมือนแนวไรผมจริง
โหงวเฮ้งที่ดีต้องปลูกผมอย่างไร
โหงวเฮ้งที่ดีในการปลูกผมคือต้องทำออกมาแล้วรูปหน้าดูสมดุล คือ ตา หู จมูก ปาก หน้าผาก รูปหน้า ต้องดูสมดุลสัมพันธ์กัน ไม่ให้ขาดหรือเกินจนเกินไป การปลูกผมจะช่วยเติมในจุดที่พร่องให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งในศาสตร์โหงวเฮ้งเชื่อว่าผู้ชายมีหน้าผากกว้างเป็นเรื่องดี วัดได้จากการนำนิ้วมื้อทาบที่หน้าผาก หากกว้างประมาณ 4 นิ้วมือ ถือว่าดี เพราะจะช่วยในเรื่องการงาน และการเงิน แต่หน้าผากที่กว้างไม่ได้หมายความว่า ผมด้านข้างต้องเว้าแหว่งเข้าไป จุดนี้ต้องเต็มสมบูรณ์จึงจะถือว่าเป็นจุดที่ดี อีกทั้งเวลาปลูกผมไม่ควรปลูกจนแคบเกินไป จะขัดทรัพย์และการงาน แต่หากเป็นผู้หญิงการมีหน้าผากที่กว้างเกินไปจะถือว่าไม่ดี เพราะจะทำให้มีคู่ครองยาก ชีวิตจะเหนื่อยยาก ดังนั้น แพทย์จึงต้องมีความรู้ในศาสตร์ด้านนี้ เพื่อที่จะดีไซน์กรอบหน้าและแนวไรผมให้มีความสวยงามและสอดคล้องไปกับศาสตร์ด้านโหงวเฮ้ง นอกจากการมีโหงวเฮ้งดีแล้วการมีแพทย์ที่มีฝีมือและชำนาญด้านการปลูกผมก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะปลูกผมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามที่ต้องการต้องอาศัยประสบการณ์ในการวิเคราะห์เซลล์รากผม ว่าแข็งแรงพอที่จะใช้ปลูกผมหรือไม่ และขั้นตอนการทำที่ต้องอาศัยความประณีตเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผมที่ปลูกใหม่แข็งแรง คงทน ไม่หลุดร่วงง่าย
เทคนิคปลูกผมแบบไร้รอยแผลเป็น FUE (Follicular Unit Extraction)

การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะ
- ไม่ต้องผ่าตัด (ไม่ต้องตัดหนังศีรษะ)
- ไม่ต้องวางยาสลบ
- ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
- ดูแลรักษาง่าย
- แผลหายเร็ว ฟื้นตัวได้ไว
วิธีนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะมีการให้ยาชาขณะทำ และแพทย์จะใช้หัวเจาะขนาดเล็กที่เหมือนปากกา ในการเก็บกราฟผมที่มีเซลล์รากผมที่แข็งแรง ส่วนมากจะนิยมเก็บเซลล์รากผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะเพราะมีความแข็งแรงและมีจำนวนมากที่สุด โดยแพทย์จะโกนผมด้านหลังศีรษะและคัดเลือกกราฟผมที่มีเซลล์รากผมแข็งแรง มาทำการปลูกในบริเวณที่แพทย์ได้ออกแบบไว้ ให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งเทคนิคนี้ได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมจนได้ เทคนิคการปลูกผมแบบ Partial-Shaven FUE ขึ้นมาอีกด้วย



เทคนิคปลูกผม Partial-Shaven FUE (Partial-Shaven Follicular Unit Extraction)

ปลูกผมเทคนิค Partial-Shaven FUE มีขั้นตอนที่ใกล้เคียงกับเทคนิค FUE เพียงแต่เปลี่ยนขั้นตอนจากการโกนผมด้านหลังศีรษะเพื่อเก็บเซลล์รากผมที่แข็งแรง เป็นตัดผมให้สั้นเฉพาะในส่วนที่ได้รับเลือกให้นำกราฟเซลล์รากผมออกมาเท่านั้น ซึ่งเทคนิค Partial-Shaven FUE ดีกว่า เทคนิค FUE เพราะ
- ไม่เห็นรอยแผลด้านหลังศีรษะ
- ไม่ต้องกังวลเรื่องการโกนผม
- ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับเทคนิค Long Hair FUE
- แผลน้อยหายไว ดูแลง่าย
- ลดภาวะแทรกซ้อน ลดแผลติดเชื้อ
เทคนิค Partial-Shaven FUE เหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องโกนผมด้านหลังศีรษะให้สั้นกุด และบริเวณที่ปลูกจะดูเป็นธรรมชาติกว่าการปลูกผมแบบ FUE เพราะเป็นการนำผมทั้งเส้นไปปลูก ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังปลูกผมเสร็จทันที โดยแผลบริเวณที่ปลูกจะถูกเส้นผมบังไว้ตั้งแต่วันแรกที่ทำ ทั้งนี้เทคนิค Partial-Shaven FUE เป็นเทคนิคขั้นสูง จึงต้องใช้แพทย์ผู้มีความชำนาญในการปลูกผม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ใหม่เทคนิค Customized Hair Design โดยแพทย์ผู้ชำนาญ เสริมการปลูกผมให้ปังไปอีกขั้น

เทคนิค Customized Hair Design เป็นตัวช่วยให้การปลูกผมปังยิ่งขึ้น ด้วยการดีไซน์ไรผมที่ปลูกใหม่ให้ขึ้นเป็นระเบียบไปในทิศทางเดียวกับไรผมเดิม ช่วยให้
- ป้องกันไรผมใหม่ขึ้นสะเปะสะปะสวนไรผมเดิม
- เสริมให้ทรงผมดูเป็นธรรมชาติ
- เพิ่มอัตราการเกิดใหม่ของผมมากขึ้น
- แนวผมดูเข้ากับใบหน้ามากขึ้น
เทคนิค Customized Hair Design เป็นเทคนิคที่คิดค้นโดยหมอเมย์ (พญ.เมธาวดี หนุนภักดี) แพทย์ผู้ชำนาญการแห่ง The Art Clinic ผู้คร่ำหวอดในวงการปลูกผมมากกว่า 10 ปี จึงเข้าใจปัญหาเรื่องผมเป็นอย่างดี และใส่ใจทุกรายละเอียด โดยทุกเคสที่เข้ารับการปลูกผม แพทย์จะทำการประเมินให้คำปรึกษา, เลือกเทคนิคที่เหมาะสม, ดีไซน์แนวผมให้เข้ากับใบหน้า แต่ละบุคคลแบบตัวต่อตัว
การเตรียมตัวเมื่อเข้ารับการปลูกผม

- ควรแจ้งแพทย์ หากมีโรคประจำตัว หรือต้องทานยาเป็นประจำ
- งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น พลาวิกซ์ (Plavix) , แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), โสม หรือสมุนไพรอื่นๆ อย่างน้อย 7 วัน
- งดการใช้ยา Rogaine, Minoxidil หรือยาปลูกผมอื่นๆ ที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมอย่างน้อย 7 วัน
- หากป่วยโรคความดันสูงที่ใช้ยา Beta Blocker จำเป็นต้องแจ้งแพทย์เพื่อขอเปลี่ยนยาก่อนเข้ารับการปลูกผมอย่างน้อย 7 วัน เนื่องจากอาจมีผลกับยาชาที่ใช้ในการปลูกผม
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังการปลูกผม 48 ชั่วโมง
- พักผ่อนให้เพียงพอเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการปลูกผม
- ควรสวมเสื้อผ่าหน้ามาในวันที่เข้ารับการปลูกผม
- งดดื่มชาและกาแฟก่อนเข้ารับการปลูกผม 1 วัน
- ควรมีผู้ดูแลมาด้วยในวันปลูกผม และไม่ควรขับรถมาเอง เนื่องจากบางเคสอาจมีอาการสะลึมสะลือ
คำแนะนำหลังเข้ารับการปลูกผม
- งดการแกะ หรือเกาบริเวณแผลและบริเวณที่ปลูกผม
- งดทำกิจกรรม, เล่นกีฬา หรืออยู่ในพื้นที่ ที่ทำให้เหงื่อออกเยอะ 1 สัปดาห์
- ไม่ต้องกังวลหากมีอาการบวมที่หน้าผาก อาการนี้สามารถหายได้ภายใน 3-4 วัน
- ทำใจให้สบายในช่วง 1-3 เดือนแรก เพราะผมที่ได้รับการปลูกจะหลุดร่วงออกไปก่อน และจะขึ้นใหม่เรื่อยๆ จนเห็นผลชัดเจนในช่วง 8-19 เดือนหลังเข้ารับการปลูกผม
- สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังปลูกผม แต่ควรระวังไม่ให้โดนบริเวณผมที่ปลูก
